ห้องนอนนับว่าเป็นบริเวณพื้นที่ส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของห้องนั้น คนทุกคนควรได้มีพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวที่จะได้ใช้เวลากับตนเอง ทำเรื่องส่วนตัว ผ่อนคลายและมีโลกส่วนตัวบ้าง สำหรับสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ได้แยกห้องนอนให้กับลูกเมื่อลูก ๆ ยังเล็กอยู่ แต่เมื่อลูกโตขึ้นการมีห้องส่วนตัวจะเป็นผลดีกับลูก ๆ มากกว่า ทำให้ลูกร็จักรับผิดชอบ ลูกรู้สึกว่ามีมุมสำหรับเขาโดยเฉพาะ วัยที่เหมาะกับการแยกห้องนอน มีห้องส่วนตัวก็ตั้งแต่อายุ 10 ขวบขึ้นไป ห้องนอนของเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายมีรายละเอียดแตกต่างกันไม่เฉพาะเพียงการตกแต่งที่เรามักเห็นความแตกต่างอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา เคล็ดลับการแต่งห้องเด็กผู้หญิงได้แก่
1.ควรอยู่ในตำแหน่งที่มิดชิดส่วนตัวของบ้าน
ก่อนอื่นเรื่องของตำแหน่งของห้องนอนเด็กผู้หญิงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย ห้องนอเด็กหญิงใช่ว่าจะอยู่จุดไหนของบ้านก็ได้ ควรจะจัดให้อยู๋ในจุดที่คนไม่พลุกพล่าน แขกไปใครมาไม่เดินผ่านและเห็นชัด ไม่อยู่ในมุมที่หน้าต่างมองเข้ามาแล้วอันตราย จุดที่เหมาะสมคือจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวแต่อย่าไกลจากห้องของพ่อแม่มากและไม่เปลี่ยนเป็นมุมอับมืดเกินไป
2.ต้องมีม่านบังตา
ห้องนอนเด็กหญิงไม่ควรโล่งหรือมีกระจกใสเท่านั้นกั้น ควรจะทึบและมีม่านบังตาในขณะเดียวกันก็อากาศปลอดโปร่งด้วย เมื่อเด็กผู้หญิงอยู่ในห้องอาจจะนั่งนอนในท่าทางสบายหรือแต่งตัวเสื้อผ้าน้อยชิ้นเพราะอากาศร้อน ม่านและความมิดชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
3.มีแสงสว่างที่เพียงพอ
แสงสว่างที่เพียงพอมีประโยชน์และจำเป็น ไม่ว่าจะในเวลาอ่านหนังสือ เวลาแต่งตัวที่ต้องการแสงเพื่อแต่งหน้าทำผม ดูความเรียบร้อยของตัวเองก่อนออกจากบ้าน หรือความสว่างที่ช่วยให้มองเห็นทั่วห้องเผื่อมีแมลงหรือสัตว์ตัวเล็ก ๆ ไม่พึงปรารถนาเข้ามาในห้อง
4.ควรเป็นห้องที่มีมุมแต่งตัวและมีตู้เสื้อผ้าในห้อง
เด็กผู้หญิงต้องการมุมแต่งตัวด้วยกันทุกคน และต็เสื้อผ้าก็ควรอยู๋ในห้อง บางบ้านใช้ตู้เสื้อผ้าร่วมกันหรือแยกห้องแต่งตัวไว้ต่างหาก ทำให้เด็กผู้หญิงต้องใช้ห้องแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อร่วมกับคนอื่น ๆ ดูไม่เหมาะสม ควรมีต็เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวไว้ในห้องส่วนตัวจะดีกว่า
5.แต่งตามความชอบและรสนิยมของลูก
อย่าลืมคำโบราณที่ว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ควรให้ลูกสาวได้เลือกสีห้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง มีส่วนออกแบบแสดงความคิดเห็นในการแต่งห้องของตนด้วย